อยู่นี่แล้ว


วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สรัสวตี - เทพีแห่งศิลปามันตรา "นโม เทวเย สรัสวัตเย"


บัวหนึ่ง โผล่บาน เหนือน้ำ

รากหยั่ง โคลนตม ซมเศร้า 

ดูดดิน เคล้าโศก โบกทับ 

รับเร้า หล่อเลี้ยง เบ่งบาน

พระแม่สรัสวดี ทรงเป็นมหาเทวีอีกองค์หนึ่งที่ได้รับการบูชาอย่างกว้างขวางในศาสนาฮินดูทุกวันนี้ โดยไม่จำกัดลัทธินิกาย และทรงได้รับการนับถือในฐานะคุรุเทพสูงสุด เหนือกว่าคุรุเทพอีกหลายองค์ในศาสนาฮินดูทุกวันนี้ เรียกได้ว่า ถ้าจะกล่าวถึงเทพแห่งสติปัญญาและความรู้ คนอินเดียจะนึกถึงพระแม่สรัสวดีก่อนเทพทุกองค์ แม้ว่าในศาสนาฮินดูจะมีคุรุเทพที่บูชากันอยู่เป็นจำนวนมากก็ตาม

พระแม่สรัสวดีทรงเป็นเทวีแห่งปรีชาญาณ และศิลปวิทยาการ พระนางทรงอุปถัมภ์การศึกษาในศาสตร์ต่างๆ ทุกแขนงที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมาได้ ดังนั้นพระนางจึงเป็นเทวีของครูบาอาจารย์ นักเรียนนักศึกษา และการเรียนการสอน การค้นคว้าวิจัยทุกชนิด นอกจากนี้ยังเป็นเทวีแห่งนาฏดุริยางค์ การละครและศิลปะการแสดงทุกสาขา ทรงเป็นแม้กระทั่งเทวีแห่งการเจรจา ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมต่างๆ ทั้งยังทรงเป็นมารดาแห่งพระเวท ซึ่งในส่วนนี้ก็ทรงได้รับการบูชามากกว่าพระพรหม

เทวลักษณะของพระนางจึงเป็นสาวงามที่ฉลองพระองค์สีขาว แสดงถึงความเป็นนักบวช มักจะทรงถือเครื่องดนตรี เช่น วีณา (Vina) ซึ่งเป็นจะเข้ชนิดหนึ่งของอินเดีย และพระหัตถ์ที่เหลือมักถือคัมภีร์ และสร้อยประคำ ที่มีความหมายเช่นเดียวกับพระพรหม พระแม่องค์นี้ทรงได้รับการบูชามาแต่เดิมในฐานะเทวีแห่งแม่น้ำสายหนึ่งซึ่งปัจจุบันหายไปแล้วในทะเลทรายพรหมวรรต พระนางเป็นเทพพื้นเมืองซึ่งชาวอารยันนำมารวมไว้ในคัมภีร์พระเวท และทรงมีบทบาทสำคัญในการชำระมลทินให้บริสุทธิ์ มาตั้งแต่ก่อนที่จะนับถือแม่น้ำคงคา

ต่อมาพระนางก็ถูกนำเข้ามารวมกับลัทธิบูชาพระพรหม โดยกล่าวกันว่าเป็นเทพนารีองค์เดียวกับพระนางศตรูปา ที่พระพรหมทรงสร้างขึ้นก่อนสร้างโลก ดังนั้นในพรหมนิกาย พระนางก็เป็นทั้งชายา (ศักติ) และธิดาของพระพรหม และร่วมกับพระพรหมในการสร้างโลก สร้างมนุษย์และสรรพสิ่งทั้งปวง

เมื่อศาสนาพราหมณ์เสื่อมลง คติการนับถือพระแม่สรัสวดีก็ยังสืบทอดต่อมาในลัทธิที่บูชาพระพรหม และในช่วงต้นๆ พุทธกาลลัทธิที่บูชาพระนางก็เริ่มแยกเป็นเอกเทศจากลัทธิของพระพรหม

จนถึงยุคสมัยที่ศาสนาพราหมณ์เปลี่ยนเป็นศาสนาฮินดู พระนางก็กลายเป็นคุรุเทพที่ได้รับการบูชามากในระดับหนึ่ง มีการแต่งนิยายให้พระนางเป็นชายาพระนารายณ์ แล้วทะเลาะกับพระแม่ลักษมีจนพระนารายณ์ต้องยกให้พระพรหม แล้วก็เป็นตัวประกอบในเทพนิยายของทางไศวะนิกาย แต่สรุปก็คือพระนางไม่ถูกจัดเข้านิกายใดเป็นพิเศษ

ต่อมาในขณะที่ลัทธิที่บูชาพระนางเป็นเทพสูงสุดยังคงสืบทอดกันอยู่ในภาคเหนือของอินเดีย การบูชาพระนางในศาสนาพุทธก็แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วพระนางก็เลยกลายเป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งในศาสนาพุทธฝ่ายมหายาน ถือเป็นพระโพธิสัตว์เพศหญิงที่สำคัญในลำดับต้นๆ รองจากพระนางปรัชญาปารมิตา และพระนางตารา และในทางมหายานนั้นนับถือกันว่าพระนางเป็นศักติของพระโพธิสัตว์มัญชุศรี ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์แห่งสติปัญญา (อ้างอิงจาก http://www.sarasdevalai.com ตัดตอนและเรียบเรียงเพิ่มเติมจากบทความ คุรุเทพ โดย สุธารี วินิจกุล / สงวนลิขสิทธิ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น