วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554
เสียงเพลงแห่งความหลัง
เนิ่นนานผ่านไปกี่วัน กี่เดือนแล้วไม่รู้สิ ทุกอย่างมันก็ยังเหมือนเดิม ฉันเริ่มชาชินกับความโดดเดี่ยว เหมือนบทเพลงที่เคยบรรเลงปลอบประโลม แล้วจบไปเสียดื้อๆ อาจจะดูน่าเศร้าสำหรับชีวิตใครบางคน แต่บทเรียนเหล่านั้นก็สอนให้ฉันอยู่ได้โดยปราศจากความรู้สึกบ้าง บางเวลาก็ยังดี
ความรักในดนตรี คือความรักที่เธอมอบให้ฉันหรือไม่? หลายต่อหลายครั้งฉันเคยนั่งเศร้ากับคำพูดอันไม่เที่ยงของคนบางคน บางครั้งมันก็ไม่เหมือนบทเรียนที่เราประสบเอง นั่นสิเสมอไปไหม หากคุณรักเพลงสักเพลง แน่หละฉันคิดว่าคุณต้องพยายามเก็บเพลงนั่นไว้ฟังแล้วฟังเล่า เพราะเพลงพวกนั้นมันคือประสบการณ์ที่เปรียบเสมือนกล่องเก็บอารมณ์ความรู้สึกของคุณไว้
เปิดแล้วก็เปิดอีก--- หากฉันเป็นเพลงสักเพลงที่คอยเก็บความรู้สึกที่ดีของใครไว้สักคน ทำไมเขาพยายามเพิกเฉย หรือว่านั่นเป็นที่ทำให้ทุกข์ เพลงนั้นต้องรู้สึกเศร้าใจแน่ที่พยายามโกหกตัวเองว่ามีความสุข เมื่อใครฟังฉันแล้วน้ำตาอาจจะไหลโดยไม่รู้ตัว
แต่อย่างไรช่างเถอะ ฉันจะคิดว่าคุณฟังฉันแล้วเคยบอกว่ามีความสุขก็แล้วกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ฟังอีก เพราะเทปม้วนนั้น ใครอาจฟังแล้วทิ้ง แต่ขอจงทราบไว้ว่า ฉันยังไม่เปลี่ยนแปลง เพลงนี้ก็ยังบรรเลงเริงระบำในท่วงทำนองของมันเอง มันคือธรรมชาติของฉัน
ถึงแม้ว่าความทรงจำนั้นจะถูกปล่อยทิ้งไว้ ล่องลอยในอวกาศ แต่ฉันคิดว่าคุณยังจำท่วงทำนองนั้นได้นะ
จากบทเพลงที่แสนไกล
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น