HUMAN LIFE AND MY LIFE
วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568
#คู่มือบำบัดด้วยพลังคริสตัล
#คู่มือบำบัดด้วยพลังคริสตัล . บทที่ 1 ตอนที่ 1 . #แนวทางการบำบัดด้วยคริสตัล .
ในเล่มที่ 1 Crystal Enlightenment โดย KATRINA RAPHAELL .
ได้มีการกล่าวถึงคุณสมบัติการบำบัดของคริสตัลและหินหลายชนิด
รวมถึงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเทคนิคการบำบัดด้วยคริสตัลและรูปแบบต่างๆ ของหิน
การเผยแพร่ข้อมูลนี้ให้ผู้คนที่ต้องการใช้จริงได้รับทราบ
ทำให้เกิดความรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นในการแบ่งปันเทคนิคเฉพาะที่ใช้เมื่อวางคริสตัลและหินลงไปและพลังงานอันทรงพลังเริ่มไหลเวียน
หลายคนเคยประสบกับผลกระทบเหล่านี้มาแล้ว คุณอาจไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
หรือจะจัดการกับการเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ . เมื่อศูนย์จักระเปิดออก
และสิ่งอุดตันใดๆ ก็ปรากฏขึ้นพร้อมให้ปล่อยออกไป นี่คือสิ่งที่ต้องทำ
วิธีติดต่อแหล่งที่มาของพลังงาน รับมุมมองทางจิตวิญญาณ เข้าใจสาเหตุหลักของโรค
และวิธีขจัดความเจ็บป่วย เรียนรู้บทเรียนที่แฝงอยู่ ปล่อยวาง และก้าวไปข้างหน้า
แนวทางการบำบัดที่อธิบายไว้ในที่นี้เป็นแนวทางที่ฉันได้ใช้และพัฒนามาตลอดหลายปีของการบำบัดด้วยคริสตัล
การบำบัดหลายๆ วิธีเป็นระบบทฤษฎีและการปฏิบัติที่สมบูรณ์ในตัวของมันเอง
(การบำบัดในอดีตชาติ การขับไล่ปีศาจ ฯลฯ) แนวทางเหล่านี้ .
เราควรใช้ในหนังสือเล่มนี้โดยเกี่ยวข้องกับศิลปะและการปฏิบัติ
ของการบำบัดด้วยคริสตัล ผลของการบำบัดใดๆ จะเพิ่มขึ้น
และพลังงานการบำบัดจะทวีคูณเมื่อใช้คริสตัลร่วมกับการบำบัดนั้น
ฉันขอแนะนำให้คุณค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้
ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้นำเสนอเทคนิคเหล่านี้ให้คุณทราบ
และขอให้คุณปรับตัวเองให้สอดคล้องกับแสงภายในของคุณและพลังงานของคริสตัลและหินก่อนที่คุณจะใช้มัน
.
ศิลปะการบำบัดด้วยคริสตัลเป็นความรับผิดชอบที่ต้องรับรู้และยอมรับอย่างมีสติก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติกับผู้อื่น
เพราะความเสียหายมากมายอาจเกิดขึ้นได้
และเกิดขึ้นแล้วจากผู้ที่ไม่ทราบถึงพลังที่เกิดขึ้นเมื่อคริสตัลและหินผสมผสานกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของมนุษย์
การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและชัดเจนหลายอย่างเกิดขึ้น
ซึ่งเราต้องเตรียมพร้อมและสามารถรับมือได้ เมื่อแสงออร่าถูกสะท้อนจากหิน
จะส่งผลโดยตรงต่อทุกแง่มุมของการดำรงอยู่
จิตสำนึกจะสูงขึ้นร่างกายอารมณ์จะไวต่อความรู้สึกมากเกินไป
และหากใช้วิธีการที่เหมาะสม พลังงานทางจิตวิญญาณจะรวมเข้ากับร่างกายได้
และการรักษาที่น่าอัศจรรย์จะเกิดขึ้นได้ หากไม่รู้ตัวและไม่รู้เท่าทัน
พลังที่กำลังเผชิญอยู่ การแยกตัวอย่างรุนแรง ความเปราะบางทางจิตใจ
และพลังงานที่ไม่ถูกควบคุม อาจสร้างอันตรายมากกว่าประโยชน์
ด้วยเทคนิคการบำบัดเฉพาะที่อธิบายไว้ในหน้าต่อไปนี้ .
พลังของคริสตัลและหินสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
และพลังงานของคริสตัลเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการรักษาและยกระดับจิตใจได้
การรักษาด้วยคริสตัลเป็นศิลปะที่ก้าวหน้า
ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างการรักษาที่สมบูรณ์ ซึ่งรวมถึงร่างกายทางจิตใจ อารมณ์
ร่างกาย และจิตวิญญาณ
การฝึกการรักษาด้วยคริสตัลเป็นโอกาสที่เราจะปล่อยวางและปล่อยให้พระเจ้า
เป็นช่วงเวลาที่หัวใจรับฟังข้อความจากจิตวิญญาณ
เป็นเวลาที่จะดำดิ่งลงสู่ความไว้วางใจในตัวตนภายในอย่างลึกซึ้ง
การรักษาด้วยคริสตัลอุทิศให้กับพลังงานสูงสุดของแสงและสีในขณะที่มันส่งผลต่อระดับที่ละเอียดอ่อนของมนุษย์
. เมื่อปฏิสัมพันธ์ของพลังงานนี้เกิดขึ้น
ก็จะสามารถเข้าถึงแก่นแท้ที่ลึกที่สุดของบุคคลได้ จากนั้น
จึงเป็นไปได้ที่จะเห็นว่าทำไมเราจึงสร้างความเป็นจริง ที่เรามีในชีวิตของเรา
เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าทำไมเราถึงดึงดูดสถานการณ์ต่างๆ เข้ามาในชีวิตเรา
และบทเรียนทางจิตวิญญาณอันล้ำค่าที่แฝงอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตของเรา
เราก็สามารถรับผิดชอบต่อตัวเองได้ทั้งหมดและสร้างชีวิตของเราในแบบที่เราเลือก .
ความสงบสุขและการเสริมพลังให้ตนเองเป็นหนทางธรรมชาติในการดำรงอยู่ของผู้ที่กลมกลืนกับตนเอง
และเข้าใจจุดประสงค์ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต
#ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเล่นบทบาทเป็นเหยื่อผู้ถูกควบคุมผู้ไร้อำนาจและนักโทษของชีวิตอีกต่อไป
ศิลปะแห่งการบำบัดด้วยคริสตัลต้องใช้สมาธิและความสามารถในการปล่อยวางปัญหาส่วนตัวเพื่อให้เชื่อมโยงกับบุคคลที่กำลังได้รับการรักษาได้อย่างสมบูรณ์
. เมื่อได้รับการรักษาด้วยคริสตัล
สิ่งอุดตันในร่างกายทางจิตใจหรืออารมณ์จะปรากฎขึ้นในจิตสำนึกเพื่อให้มองในมุมมองที่กว้างขึ้น
การบำบัดด้วยคริสตัลได้รับการออกแบบมาเพื่อนำพลังแสงและสีสันมาสู่ออร่ามากขึ้น
เนื่องจากแสงธรรมชาติสะท้อนจากหินและพลังงานก็ถูกขยายขึ้น
ซึ่งจะทำให้มองเห็นหมอกพิษและรูปแบบกรรมส่วนบุคคลที่ควบคุมเหตุการณ์ในชีวิตได้ชัดเจนขึ้น
. ด้วยความเข้าใจนี้ เราจึงสามารถเข้าใจได้อย่างมีสติ ดำเนินวงจรให้สมบูรณ์
ชำระล้างกรรม เรียนรู้บทเรียนอันล้ำค่า
และเข้าถึงการเสริมพลังส่วนบุคคลอย่างสมบูรณ์
คริสตัลและหินที่วางอยู่บนศูนย์กลางที่สำคัญของร่างกายจะสะท้อนและสร้างพลังที่ส่งแสงไปยังออร่า
เมื่อออร่าเปิดและชัดเจน ศูนย์จักระจะถูกกระตุ้น
และสามารถสัมผัสอย่างมีสติกับส่วนที่ลึกที่สุดและบริสุทธิ์ที่สุดของตนเองได้ .
เมื่อความถี่การสั่นสะเทือนของออร่าเพิ่มขึ้น พลังงานทางจิตใจ อารมณ์
หรือจิตใต้สำนึกใดๆ
ที่สั่นสะเทือนที่ความถี่ต่ำกว่าจะปรากฎขึ้นในจิตใจและหัวใจเพื่อทำความสะอาด รักษา
และเปลี่ยนแปลง
ด้วยการเพิ่มแสงและการสั่นสะเทือนเพื่อการรักษาของหินร่วมกับการบำบัดที่อธิบายไว้ในหนังสือเล่มนี้
จึงเป็นไปได้ที่จะสร้างระบบความเชื่อเชิงบวกและแก้ไขแนวคิดและทัศนคติเกี่ยวกับโลกทางกายภาพและสะท้อนและแสดงสถานะภายในของเรา
. รตี แปล และเรียบเรียง . ภาพจากอินเตอร์เนต
#ความสบายใจคือหัวใจของความมั่งมี
ความสบายใจที่แท้จริง คืออารมณ์ที่ เรารู้สึกว่า การกระทำ ลงรอย กับพลังงานของจิตวิญญาณ เมื่อทั้งสอง แนบชิดสนิทกัน จะเกิดความรู้สึกเป็นธรรมชาติ
เหมือนเรากำลังนอนอยู่ ท่ามกลางกระแสน้ำ ที่ไหล และปล่อยให้คลื่น พัดพาคุณไป จนถึงจุดหมาย นี่คือการ Flow ของพลังงาน จิตสำนึก และจิตวิญญาณ
น้ำไม่สามารถ ที่จะตั้งอยู่ในแก้ว ที่สั่นตลอดเวลาอย่างรุนแรงได้ เงินก็เช่นกัน เงินไม่สามารถทานทนอยู่ในสภาพจิตใจที่สับสน ฉันกำลังจะบอกว่า เมื่อคุณรู้สึกสบายใจ เงินก็จะสบายใจด้วย
ความสบายใจนั้นสืบเนื่องมา จากการลงทุน การใช้เงิน อย่างมีเป้าหมายจุดหมาย และด้วยความสบายใจ มิใช่จับจ่าย ด้วยความสุขใจ หรือ ด้วยความประมาท นี่คือการสั่นสะเทือนที่ รุนแรง เพราะ มันเกิดจากกิเลส
การทำงาน กับใครก็ตาม มันปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน และแน่นอนว่า งานนั้นจะสำเร็จหรือไม่จะต่อยอดให้คุณมั่งคั่งหรือไม่ มันอยู่กับว่าคุณสบายใจหรือเปล่า ความสบายใจนำพามาซึ่งความมั่งคั่ง ส่วนหากงานที่คุณทำแขวนอยู่บนเส้นด้ายแห่งความไม่สบายใจ
ไม่ว่ามันจะเกิดเรื่องราวแค่เล็กน้อยการโกหก การแปลงสาร หรือความไม่น่ารักในการทำงานร่วมกัน นี่ก็คือความไม่สบายใจ เมื่อจิตใจไม่มีความสุข น้ำในแก้วก็จะสั่นสะเทือน แน่นอนเงินก็ไม่สามารถที่จะอยู่ ในจิตใจของคนเหล่านั้นได้เลย ดังนั้นจงทำงาน ที่สบายใจ อยู่กับคนที่สบายใจ หากไม่มีก็จงทำงานด้วยตัวคนเดียวและด้วยใจที่สบาย
เพราะความสบายใจกับความมั่งคั่ง เป็นเรื่องเดียวกัน
#จงเลือกอยู่กับคนที่สบายใจ
#จงทำงานที่สบายใจ
#ความสบายใจเป็นบ่อเกิดแห่งความมั่งคั่ง
#ฝึกตัวเองให้รับพลังงานดีดี
.
นี่อาจเป็นเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ เมื่อเราเสพติดสิ่งดีดี สารเอนโดรฟิน จะเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนระบบพลังงานในร่างกาย เพราะตัวสั่งการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ ฮอร์โมน เพราะมันเข้าไปมีส่วนเกี่ยวโยงเข้ากับ "อารมณ์" และความสดชื่น รื่นเริง ของความมีชีวิต
.
เมื่อคุณเสพติดความสุขจากพลังงานดีดี โดนต้องโฟกัสในสิ่งที่ถูกต้อง เห็นความพยายาม เป็นเรื่องของการพัฒนาตนเอง การเอาชนะตัวเอง เราจะเริ่มเปลี่ยนแปลงนิสัยที่แย่ ๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะตัดพ้อ กล่าวโทษ โยนความผิดให้คนอื่น โดยที่ตนเองไม่เคยรู้ตัว กลับทำผิดซ้ำซาก ด้วยไม่มองตัวเองอย่างถ่องแท้ สุดท้ายทุกคนบนโลกกลับผิดหมด มีเพียงตัวเองที่ไม่ควรเกิดมาบนโลกใบนี้ นี่คือปัญหาใหญ่มากๆ
.
การรู้ตัว การพยายามทำให้ดีขึ้น การโฟกัส ตลอดจนถึงความตั้งใจมันคือเครื่องพิสูจน์ให้เรากลายเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้น รู้ตัวไวขึ้น ส่วนนี้คือการพัฒนา sense ที่สำคัญ ก่อนที่ระบบสัมผัสด้านจิตพลังงานจะเข้าไปสู่ระบบ common sense จนกลายเป็นอนุสัยด้านดี
.
การพูดกับตัวเองในด้านบวก ช่วยสร้างเครือข่ายสนามพลังงานที่ดีแก่เซลล์ อีกทั้งช่วยจัดระเบียบระบบไฟฟ้าในร่างกายใหม่ พัฒนาตรงนี้คุณต้องบ่มเพาะด้วยตนเอง มิใช่โทษที่ที่คนเกิดมา สังคม ประเทศ ฯลฯ การบ่มเพาะตัวตนภายในจากการพูดดีดี รับพลังงานดีดี (ออร์กอน) จะเป็นตัวชี้ขาดเรื่องพัฒนาการฝ่ายจิต ซึ่งมีผลต่อความสำเร็จในชีวิตมนุษย์ของคุณ
.
เมื่อแยกกายแยกจิต คือ แยกการทำงานของร่างกาย และจิตผู้สั่งการได้แล้ว เราจะเข้าถึงระบบการจัดการสองมิติ คือ กายทำหน้าที่ตามจิต ส่วนจิตรู้ และดำเนินขั้นตอนในหน้าที่การวางแผนจัดการต่อไป ส่วนวิญญาณคือแสงไฟ spotlight ที่ส่งไปยังเป้าหมายอย่างไม่ลดละ
.
การกระทำเหล่านี้คุณต้องฝึกรับพลังงาน ตั้งเจตจำนง ฝึกฝน ทำซ้ำๆ จนกลายเป็นนิสัย กระทั่งมันเข้าไปตกผลึกตรงจิตใต้สำนึก และกลายเป็นส่วนหนึ่งของพฤติกรรมโดยสัญชาติญาณอย่างถาวร เมื่อกลายเป็นนิสัยแล้วเราก็สามารถทำโดยไม่ลำบากใจ เพราะมันเป็นไปโดยอัตโนมัติ
.
จง Flow ให้ทุกอย่างไหลตามคลื่นเจตจำนง และจงมีความสุข สิ่งเหล่านั้นคือท่วงทำนองแห่งจักรวาล จงอย่าหยุดมอง หยุดฟัง จงทำไปด้วย ฟังไปด้วย ชื่นชมไปด้วย ยินดีไปด้วย เพราะนี่คือท่วงทำนองแห่งชีวิต เมื่อคุณทำมันมากๆๆ พอ พลังแห่งการทำซ้ำจะสร้างรูปแบบจังหวะชีวิตให้แก่คุณใหม่
.
สังเกตไหมว่า เพลงที่เพราะ ๆ ความเพราะส่วนใหญ่มันมาจากจังหวะจักโคน รองลงมาก็ทำนอง และเนื้อร้อง จังหวะนั้นคือรหัสของจักรวาล เมื่อสมองถูกจัดเรียงข้อมูลเหล่านี้ใหม่ ชีวิตคุณก็จะถูกจัดเรียงใหม่เช่นกัน
.
ดังนั้นจงเริ่มให้เร็ว เพราะความสำเร็จเป็นเรื่องรอไม่ได้
วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2567
Clear Quartz
Clear Quartz หรือควอตซ์ใส หรือที่คนไทยเราเรียกกันว่าหินเขี้ยวหนุมาน หรือแก้วหนุมานนั้น เป็นหินที่มีพลังอำนาจในการบำบัดรักษามากที่สุดในโลก และก็เป็นตัวขยายพลังงานให้มีความเข้มข้นมากขึ้นที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย
หน้าที่พื้นฐานของผลึกควอตซ์หรือคริสตัลก็คือ การดูดซับเอาพลังงานเข้ามาไว้, แล้วเก็บรักษาพลังงานนั้นเอาไว้ แล้วปลดปล่อยออกไปด้วยความเข้มข้นรุนแรงที่มากขึ้นและ/หรือคมชัดกว่าเดิม นอกจากนี้มันยังสามารถที่จะมันจะช่วย clear และบำรุงอวัยวะต่างๆของเรา และรวมถึงช่วยทำความสะอาดและค้ำจุนกายทิพย์ของเราได้อีกด้วย มันสามารถที่จะช่วยขยายความสามารถทางจิตของเราให้มีมากขึ้นหรือแข็งแกร่งมากขึ้นได้ ช่วยให้เราเข้าสมาธิได้เร็วขึ้น และยังช่วยปลดล็อกความทรงจำของเราได้
ผลึกควอตซ์ที่ผ่านการเจียรไนให้มีเหลี่ยมมุมแบบ Phi หรือที่เรียกว่า Vogel Crystal แล้ว คือรูปแบบของผลึกควอตซ์ที่มีพลังอำนาจในด้านต่างๆมากที่สุด และยิ่งเจียไนยให้มีเหลี่ยมมุมมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีอานุภาพมากขึ้นเท่านั้นด้วย และยิ่งผลึกควอตซ์มีขนาดใหญ่เท่าไหร่ก็จะยิ่งมีอานุภาพมากขึ้นเท่านั้นด้วย
พลังอำนาจในการบำบัดรักษา: ผลึกควอตซ์คือปรมาจารย์แห่งการบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บทุกๆชนิดเลยก็ว่าได้ มันสามารถที่จะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของเราได้ด้วย และยังช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกายเนื้อของเราได้ด้วย
วิธีใช้งาน: สวมใส่ไว้ติดตัวโดยเฉพาะให้สัมผัสกับผิวหนัง, ทำเป็นน้ำทิพย์เพื่อหยดใส่ใต้ลิ้น 3-7 หยดช่วงท้องว่าง หรือก่อนทำสมาธิ หรือผสมน้ำดื่ม 7 หยดต่อน้ำครึ่งลิตร, เอามาวางเป็นคริสตัลกริด, เอามาวางตามจุดจักระ, เอามากำไว้ในมือแล้วทำสมาธิ, เอาแบบพุ่มใหญ่หรือแบบลูกกลมมาตั้งไว้ในห้องทำสมาธิ เพื่อดึงดูดพลังงานบวกเข้ามาและช่วยให้จิตใจสงบเร็วขึ้น รวมถึงช่วยเชื่อมต่อพลังงานของเรากับเบื้องบนได้อีกด้วย, เอาพุ่มเคลียรค์ควอตซ์ขนาดใหญ่ๆ 2-3 กิโลกรัมขึ้นไป มาล้างพลังงานหินให้กับหินชนิดอื่นๆที่ชิ้นเล็กๆหรือเป็นกำไลข้อมือได้ โดยการเอาหินที่ต้องการล้างพลังงานบลวางบนพุ่มเคลียร์ควอตซ์แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน
Ref: The Crystal Bible by Judy Hall.
#หมายเหตุ
ข้อมูลคุณสมบัติหินในเพจทั้งหมดนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลกลุ่มหนึ่งเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูล และ เราไม่แนะนำให้ใช้หินเป็นเครื่องมือหลัก ในการบำบัดรักษาโรค แทนวิธีการหลักที่ท่านใช้อยู่แล้วแต่อย่างใดเลย เพราะฉนั้นถ้าท่านมีปัญหาสุขภาพรุนแรง โปรดปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558
水樹奈々禁断のレジスタン แปลไทย
水樹奈々『禁断のレジスタンス』MUSIC CLIP(Full Ver.)แปลไทย
การเริ่มต้นมันน่ารัก ดั่งการคงอยู่ของความอยุติธรรม
แต่ก็คล้ายกับฉันได้ลิ้มรสกับการต่อสู้ที่นำไปสู่การแตกดับ
คือเครื่องเซ่นสังเวยด้วยการเกิด การดำรงอยู่ เพื่ออะไร?
ต่อเมื่อเราทราบและโต้กลับซึ่งสรรพสิ่งของธรรมชาติ ก็รู้ ไม่มีทางฝืนได้เลย
อะไรหรือคือความหรรษาของมนุษย์เราทุกวันนี้?
การสวมกอด เต้นรำกับโชคชะตาและบรรทัดฐานของสังคม?
หรือการแสร้งอยู่ในสูญตาอันเวิ้งว้าง (ใช่มันสวยงามละอยู่บนโลกอันน่าสิ้นหวังนี้)
ฝันที่แตกสลายที่ไม่มีวันสูญสิ้น หรือจะลืมซึ่งน้ำตาที่จมซากความทรงจำ
อันไหลนองเป็นสายเลือดของภพชาติ
ขอความทุกข์ จงนำพามาซึ่งเสียงสังสารวัฏ ในบทเพลงอนันตยกัลป์
จิตฉันจะโบยบิน บิน ให้สูง สูงขึ้นไป ปลดเปลื้องปล่อยวางภาระที่เหลืออยู่ในซากกรรมเก่า
สัมผัสได้ไหมว่าหัวใจมันยังเต้น เต้น สู้ไม่เคยท้อ นี่คือชีวิต!!!
ก็ไม่แย่นะ สำหรับการเกิดมา ด้วยหัวใจที่เต้นกระเพื่อมไปถึงฟากฟ้าแสนไกลนี้
ผ่านห้วงมหานทีอันกว้างไม่มีที่สิ้นสุด ดั่งดารากระพริบเมื่อสุริยนลับหวัง
เมื่อความมืดคืบคลานมากับความเหงา ความเศร้าต่างรุมเร้ากัดแทะจิตใจ
แต่ฉันก็ยังพยายาม ปลอบประโลมยอมรับความรู้สึกนั้นด้วยสุขกุศล
อะไร ใครหรือที่หยิบยื่นความสุข ในภาพนั้นที่ยังเคยติดตา ผลกรรมจำฝังใจในอัตตา
ตื่น รู้ เข้าสู่ความจริง !!!!!
เมื่อนั้นแสงแห่งความหวังจะสาดส่องซากปรักแห่งความทรงจำ และแผดเผาสั่นสะเทือนเหมือนจะร่ำไห้
ความทรมานนี้ก็ยังดีกว่านอนจมปรักอยู่กับสิ่งที่ไม่มีวันเห็นและเป็นไปได้
ฉั้นขอเย้ยเยาะ และไม่อยากเชื่อเลยว่าจะผ่านเวลาที่ยากเย็นแสนบ้านั้นมาได้
จากนี้ไปจะปลดเปลื้องพันธนาการอย่ากล้าหาญ สู่วันใหม่ที่สดใส
ดั่งเช้าวันใหม่จะไม่มีวันซ้ำวันเก่า ดั่งความมหัศจรรย์ในความไม่สมบูรณ์ของสรรพสิ่ง
ถ้าคุณมีความฝัน จงวางภาระในใจให้สิ้นก่อนที่จะโบยบิน และจงบินให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เนื้อเพลงเดิมเป็นแบบนี้จริงๆ คงแต่งนี่จบปรัชญามาหรือเปล่านิ มันลึกซึ้งมากชาวโลก
วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557
สัจธรรม ดนตรี การเยียวยา
มนุษย์มีความผูกพันธ์ในแง่กักกันกับภาษาและวัฒนธรรมอย่างลึกซึ่ง
ภาษา และวัฒนธรรมสร้างความเป็นนิสัยให้แก่ความเป็นกลุ่มชน ชาติพันธ์ุ
ในเมืองไทยมีการเปิดสอนวิชาชีพ ดนตรีขึ้นมาอย่างมากมาย แต่ไร้ซึ่งธรรม
ดนตรีที่เสียเงินเรียนแพงนั้น ไม่ให้คำตอบชีวิตอย่างที่ทุกคนคาดหวัง
เพราะถูกเรียนมาแบบอุตสาหกรรมดนตรี ไม่ใช่ศิลปิน
เขาอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปให้เกิดเป็นศิลปิน มีคำว่าพรสวรรค์เป็นเพดาน
จบมาแล้วทุกคนต่างศูนย์เสียความเป็นมนุษย์ เรียนไปเป็นผีดูดเลือด
และแพร่พันธุ์ กระจายตัวไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
โอว มาย ก๊อด อายฟิว แดทซ์ คิส มี ฮาร์ด บิ ฟอร์ว ยูว โกววววว
ชีวิตคนเรามันสั้นนัก และมนุษย์ต่างมีวิวัฒนาการที่จะเรียนแค่ดนตรี
ดนตรี เมื่อ 500 ปีก่อนหรือ ? เราหลงทาง หรือถูกทำให้หลงทาง
ความเจริญมันถูกหยุดลงแล้ว และยิ่งแย่ลง ถ้าเราไม่เปลี่ยนตัวเอง
ความชั่วนี้ยิ่งกระจายไปมากขึ้น มากจนสมองไม่มีเวลาคิด มันจะฝ่อ
ฝ่อเพราะวัฒนธรรมใครบางคน ความชอบรสนิยมคนบางคน
ฉันเกลียดอะไรแบบนี้มากที่สุด ซีดส์มาก เมืองไทยคงได้แค่นี้
โชคดีที่ฉันไม่ทำดนตรี และไม่เรียนดนตรีแบบที่เขารู้กันแล้ว
จูบฉันอย่างเยือกเย็น ฉันเห็นพวกเธอ โง่ลงปีละเยอะๆ
เวลามีค่าที่เธอใช้ไป ล้วนเดินบนสายพานที่เขาสร้างไว้
สิ่งที่แสวงหากลับไม่เจออะไร
เศร้า และสะใจเล็กๆ ไร้ซึ่งการเยียวยาใดใด
วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556
ความทุกข์ : Let It Go - Idina Menzel
ค่ำคืนแห่งหิมะและเกล็ดน้ำแข็งที่ปกคลุมขุนเขา
ดูเหมือนไร้ซึ้งรอยเท้านำทาง
ในดินแดนอันแคว้งคว้างฉันดูเหมือนจะเป็นราชินี
พายุลูกใหญ่โหมกระหน่ำแต่ยังซ่อนเร้นสายลมหมุน
เหมือนไม่สามารถเก็บซ่อนอารมณ์นี้เอาไว้
สวรรค์รู้ฉันเหนื่อยและล้า
อย่าเปิดใจให้ใคร อย่าให้ใครได้เห็นฉันเป็นคนดี
เหมือนอย่างที่เคยเป็นปกปิดเอาไว้
ไม่ให้รู้สึก ไม่ให้ล่วงรู้แล้วไง?
ยังไงก็คือความจริง!!!
ปล่อยมันไป ให้เป็นไป
ไม่อยากให้กลับไปเหมือนเดิมอีกต่อไป
ปล่อยมันไป ให้เป็นไป
หันหลังจากมาแล้วอย่าทิ้งเยื่อใย
ฉันไม่แคร์ ว่าใครจะพูดอะไร
ต่อให้พายุโหมกระหน่ำซ้ำแรง
ถ้าไม่ปรุงแต่งก็ไม่สะทกสะท้านไง
นี่มันเรื่องตลกเวลามองอะไรไกลๆ
ดูเหมือนอะไรๆ จะดูเล็กลง
ความกลัว ที่เคยครอบครอง
บัดนี้จรไม่เล็กลงไม่เหมือนเคย
นี่คือเวลามองโลกกว้าง เปิดตา เปิดใจ
เพื่อทดสอบขีดจำกัดของตัวเอง
ไม่มีถูก ไม่มีผิด ไม่มีกฏเกณฑ์ สำหรับฉัน
มันคือ อิสระ
ปล่อยมันไป ให้เป็นไป
เป็นหนึ่งเดียวกับท้องฟ้าและดวงดาว
ปล่อยมันไป ให้เป็นไป
คุณจะไม่มีวันเห็นน้ำตาแห่งความเสียใจ
นี่คือจุดยืน แหละนี่คือความชอบธรรม
ฉันไม่หวั่น (ยักไหล่)
พลังฉันแตกซ่านละลอยล่องผ่านอากาศสู่ธรณี
จิตวิญญาณแทรกซึมในทุกอณูเวียนว่ายล้อมกายฉัน
ทุกสภาวะจิตเบิกบานไร้ซึ่งอวิชาสงสัย
มันคือสัจธรรม
ปล่อยมันไป ให้เป็นไป
เหมือนดวงตะวันทะยานส่องแสงบนฟากฟ้า
ปล่อยมันไป ให้เป็นไป
เมื่อกุศลย่อมเกิดขึ้นที่ใจตน
นี่คือจุดยืนสู่ปณิธานใหม่
ต่อไป ความทุกข์ก็คงไม่เท่าไหร่...
ต่อไป ความทุกข์ก็คงไม่เท่าไหร่...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)