อยู่นี่แล้ว


วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

STUDIO GHIBLI โรงงานการ์ตูนจิบลิ

STUDIO GHIBLI โรงงานการ์ตูนจิบลิ







       เด็กน้อย... เด็กเอ๋ย เจ้าเด็กน้อย ภายใต้แหล่งสื่อวัฒนธรรมหน้าจอ ฉากใหม่แห่งการเรียนรู้แห่งโลกทันสมัย อายุถูกสมมุติกำหนดขึ้นมาเป็นเกณฑ์อย่างหยาบในการรับสื่อ ภาพเหตุการณ์ปัจจุบันทั้งดีและเลว พฤติกรรม สัญชาติญาณได้ถูกส่งถ่ายรายเรียงออกมาจากหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ 




       ท่ามกลางลมหายใจของโลกสมัยใหม่เวลาที่ผู้ปกครองไม่อยู่บ้าน คงสบายใจหากท่านได้ฝากบุตรหลานไว้กับโทรทัศน์และจอคอมพิวเตอร์ คงไม่มีใครที่จะทำรายการส่งเสริมทรัพยากรของโลกในอนาคต วัฒนธรรมคลั่งวัตถุนิยมได้ชักใยบุตรหลานของท่านเอาไว้แล้ว ก้าวแรกของเขาเป็นทุนนิยมอย่างเต็มตัว มันยากที่จะเปลี่ยนแปลงในอนาคต “ไม้อ่อนดัดง่าย ไม่แก่ดัดยาก”ง่ายเหลือเกินที่เหล่าอนาคตของโลกสมัยนี้จะตกอยู่ในอำนาจเงื้อมมือวัฒนธรรมวัตถุนิยม คงจะมีใครสักคน สักคนที่พยายามปลูกความดีไว้ในจิตใจเด็ก เด็กที่เขาเชื่อว่าเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ผ้าขาวที่ยังไม่แปดเปื้อน



       ฮายาโอะ มิยาซากิ(Hayao Miyazaki เกิด ๕ มกราคม ค.ศ. ๑๙๔๑) ผู้เติบโตท่ามกลางสภาพสังคมที่แวดล้อมไปด้วยความโหดร้าย ช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ สภาพบรรยากาศแห่งสงคราม ความรุนแรง จากความทรงจำอันเจ็บปวดของผ้าขาวที่พร้อมจะแปดเปื้อนเลือดของสงคราม ค.ศ. ๑๙๔๕ ในวัย ๔ ขวบ มิยาซากิถูกหอบหิ้วขึ้นรถบรรทุกเพื่อหนีภัยสงครามพร้อมครอบครัว ระหว่างทางเด็กน้อยได้เหลือบเห็นสตรีคุ้นหน้าละแวกบ้าน ในอ้อมกอดเธอมีลูกน้อยแนบอก เธอได้อ้อนวอนขอขึ้นรถไปกับเราด้วย แต่ทว่าลุงและพ่อของเขาไม่มีแม้แต่จะชะลอความเร็ว กลับเลือกที่จะบึ่งรถมุ่งหน้าเอาตัวรอดไปอย่างไม่แยแส 



       “ผมเจ็บปวดจนบอกไม่ถูก... แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าปริปากถามท่าน ว่าทำไมถึงไม่ยอมหยุดรับผู้หญิง และลูกน้อยของเธอนั้นมาด้วย... เพราะอย่างนี้ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ผมจึงบอกตัวเองว่า ผมจะทำการ์ตูนให้เด็กๆ ดู เด็กๆ ที่ดูแล้วกล้าเอ่ยปากพูดในนาทีที่คับขันนั้นว่า -พ่อจ๋า ลุงจ๋า กรุณาหยุดรถรับเด็กคนนั้นขึ้นมาด้วยเถอะจ๊ะ- เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียใจไปชั่วชีวิตเหมือนผม”



       รอยแปดเปื้อนที่ยากจะลบล้างนั้น คือคราบคำตอบที่ครอบคลุมถึงวิธีคิด การสร้างสรรค์ผลงานของเขาทั้งหมด เพราะความรู้สึกผิดที่ยังฝังลึกในใจ สิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นพลัง บ่มเพาะจิตใจในการสร้างงาน ส่งผลถึงการเกลียดชังอาวุธ สงคราม และความรุนแรง ความพยายามลบรอยเปื้อนในวัยเยาว์ส่งผลให้สาระสำคัญของงานมิยาซากิเป็นเสมือนการปลูกความอุดมสมบูรณ์ทางจิตใจไว้กับเด็กทุกคน(นับทอง ทองใบ, ฉีกขนบแอนิเมชั่น เอกลักษณ์ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ นักฝันแห่งตะวันออก, ๒๕๕๐:๑๒-๑๓.) ภาพฝัน จินตนาการของเด็กตัวเล็กถูกสื่อผ่านออกมาในบรรยากาศอันบริสุทธิ์ เด็กทุกคนย่อมเคยประสบกับความรุนแรง เลือด เพศ การทำลาย แต่สิ่งใดเล่าที่จะกล่อมเกลาสิ่งเหล่านั้นได้อย่างมีเหตุผล


       I'm not going to make movies that tell children, You should despair and run away” 








สตูดิโอจิบลิ มายาคติแห่งการเสี้ยมสอนของพ่อมดมิยาซากิ ในที่นี้มายาคติ คือการสื่อความหมายด้วยคติความเชื่อทางวัฒนธรรมซึ่งถูกกลบเกลื่อนจนดูเป็นธรรมชาติ(สุภางค์ จันทวานิช, ทฤษฏีสังคมวิทยา, ๒๕๕๑:๒๒๐.) สตูดิโอจิบลิก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. ๑๙๘๕ ในนามของเครื่องบินรบอิตาลีช่วงเวลาสงครามโลกครั้งที่ ๒ อันหมายถึงสายลมร้อนที่พัดผ่านทะเลทรายซาฮาร่า ก้าวแรกแห่งการสร้างสรรค์ผลงาน ตอกย้ำบนจุดยืนของก้าวแรกด้วยผลงาน Nausicaä of the Valley of Wind, ๑๙๘๔ ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สร้างเฉพาะจอเงิน ถึงจะลำบากแสนยากเมื่อวัฒนธรรมทุนนิยมได้คืบคลานเข้ามาครอบครองวิถีชีวิตผู้คนปัจจุบัน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินกำลังที่จะทำสิ่งนี้เพื่อเด็กๆ และสังคม และไม่ใช่เหตุที่ต้องยอมจำนนเลย 




ทว่าทั้งหมดทั้งมวลมันไม่มีอะไรที่มันจะถูกต้องเสมอ มายาคติทุนนิยมที่สังคมสมัยใหม่ได้สร้างขึ้นเป็นเกราะป้องกันให้พวกเขาออกห่างจากความอ่อนโยน ความดีงาม พวกเราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างความลึกลับภายใต้ดินแดนแห่งใหม่ และมันคือความพิศวงที่ดูเหมือนจะซับซ้อน ทักษะการวาดเส้นด้วยมือเปล่ากำลังจะตายไปจากโลก เมื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเป็นเครื่องทุ่นแรงอย่างมหาศาล เขาพร่ำบ่นเหมือนตาแก่ ภาพเหล่านั้นช่างปราศจากซึ่งวิญญาณซะเหลือเกินฉันใด ฉันนั้นอาหารที่บรรจงปรุงด้วยรสมือมนุษย์ใยกลับจึงมีคุณค่ามหาศาลด้านจิตใจ มากกว่าอาหารที่ผลิตจากเทคโนโลยีจักรกล โลกกำลังเปลี่ยนแปลงตาแก่โบราณกำลังถูกลบออกไปจากหน้ากระดาษเก่าผุพัง เขายังบรรจงวาด วาด เขียนเรื่องราว เรื่องราวชีวิตของตาแก่มีปมด้อย เขายังยืนยันบนจุดยืนความเป็นศิลปิน วาดเอง เขียนเอง ลงสีเอง และเลือกผู้ประพันธ์เพลงเอง



ดนตรีได้ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการบอกเล่าบรรยาย บรรยากาศนั้น คงไม่มีสิ่งไหนที่สามารถทัดทานอำนาจทางสื่อของภาพและเสียงได้อีกแล้ว โจ ฮิซาอิชิ(Joe Hisaishi เกิด ๖ ธันวาคม ค.ศ. ๑๙๕๐) นักประพันธ์เพลง(Composer, Film Composer) คือผู้เดียวที่มิยาซากิชื่นชมวางใจให้ประพันธ์เพลงประกอบการ์ตูน และเขาก็สามารถทำได้อย่างวิเศษ โจ เติบโตมาพร้อมกับสตูดิโอจิบลิ ด้วยบุคลิกเป็นคนที่มีจิตใจดี สดใส ร่างเริง รักเด็ก และมีอุดมการณ์สอดคล้องกันกับมิยาซากิ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่มิยาซากิ และโจ จะสร้างสรรค์งานที่จรรโลง ปลูกนำมาซึ่งความงามในจิตใจทุกเมื่อ เมื่อเราได้สัมผัสงานของพวกเขา ด้วยการผสานกลิ่นไอแห่งเอเชียเข้ากับดนตรีในวัฒนธรรมตะวันตกภาพวาดแห่งจินตนาการ 




การแต่งแต้มด้วยเสียงเพลงถูกสื่อผ่านเครื่องดนตรีตะวันตก ในสำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเอเชีย แนวเพลงท่วงทำนองอันปลอบประโลมหัวใจดวงน้อย เสียงร้องของเด็กๆ ความใส ความซื่อตรงของตัวละครได้ถูกสื่อออกมาอย่างนุ่มนวลผ่านภาพที่ไม่หวือหวา ความเรียบง่ายของเส้น ความงามของเสียงที่โจได้ผสานเข้าไปในฟิล์มนั้น ยากที่จะเปรียบได้ถึงพรสวรรค์การตีความจากเนื้อเรื่อง ตัวภาพ ให้ออกมาอย่างต้องประสงค์ของผู้สร้างทุกประการ ทำนองง่ายๆ จังหวะที่ไม่ซับซ้อน ช่วยสื่อภาพอุดมการณ์แห่งผู้สร้างให้ออกมาอย่างเต็มเปี่ยม แนวดนตรีที่พิถีพิถัน การตลบพลิกแพลงทำนองเดิมกลิ่นไอตะวันตกให้ออกมาอย่างนิ่มนวลอย่างตะวันออก การก้าวกระโดดของบันไดแห่งเสียงเพลงยังเปรียบเสมือนผู้บอกเล่าเรื่องราวได้อย่างดีเยี่ยม เขากระโดดออกไปเล่นเปียโนเองทุกครั้ง โจผู้ไม่เคยอยู่เบื้องหลังการผลิตงานเพียงอย่างเดียว ถ้าเขาไม่เล่นเองเขาก็จะเป็นวาทยากรเอง! 




สิ่งนี้เองที่มิยาซากิ ได้ค้นพบตัวเองว่า คงไม่มีใครสามารถสื่อผลงานตัวเองได้มีประสิทธิภาพเท่ากับตัวเองได้อีกแล้ว นี่คือผลิตผลของสตูดิโอจิบลิ อัตลักษณ์บนจุดยืนที่แนวแน่ของการสร้างสรรค์งานศิลปะ รอยยิ้มของพวกเขายังตราตรึง สิ่งนั้นบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ดีงามในจิตใจของบุคคลที่ยังสัมผัสงานพวกเขา ถึงแม้ว่าสตูดิโอเล็กๆ แห่งนี้จะสามารถผลิตผลงานได้อย่างมากแค่ปีละเรื่อง หรือน้อยกว่านั้น ซึ่งแต่ละเรื่องก็ล้วนแต่ต้องใช้เงินลงทุนกว่าพันล้านเยน(ประมาณ ๓๐๐ ล้านบาท) สิ่งนั้นย่อมหมายถึงการเสี่ยงต่อภาวะหนี้สิน และขาดทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สตูดิโอแห่งนี้ไม่มีการว่าจ้างพนักงานประจำ อนาคตถูกรวบยอดว่าจะรอดหรือล้ม  ถ้ารอดก็สร้างเรื่องต่อไป หากว่าล้มก็แปลว่านี่คือจุดสิ้นสุดของสตูดิโอแห่งนี้ทันที (นับทอง ทองใบ, เรื่องเดียวกัน, ๒๕๕๐:๒๒.)


เขาทำลายสถิติในการเข้าชมได้เสมอ เสมอ และสิ่งนี้คือยาต่อลมหายใจของสตูดิโอเล็ก เล็กแห่งนี้ คงไม่มีใครทุ่มพลังชีวิต และเทวิญญาณของตนสร้างงานโดยไม่หวังผลกำไรทางเม็ดเงินฉะนี้ ฉะนั้นความสัตย์จริง คุณภาพของงานจึงถูกสื่อผ่านออกมาทางจิตวิญญาณอันแน่วแน่ เครื่องมืออาวุธ ยุทธโธปกรณ์ เครื่องบิน รถถังวัฒนธรรมรายทางในชีวิตมิยาซากิถูกนำมาใช้อย่างสร้างสรรค์ และเพื่อประโยชน์สุขของผู้ชม ในภาพฝันการแนบแน่นไว้ซึ่งปรัชญาความคิดที่มีเหตุผล การรักษ์ซึ่งโลกที่ตนอยู่อาศัย ทรัพยากรธรรมชาติ แม่น้ำ สายลม แสงแดด ภูเขา ถูกสื่ออกมาอย่างนุ่มนวลภายใต้กลไกของการผจญภัย การเรียนรู้ สิ่งแปลกใหม่ และความเป็นอารยวัฒนธรรม อารมณ์ทั้งหลายถูกสอดแทรกเข้าไปพร้อมกับเสียงเพลงที่เป็นตัวดึงอารมณ์จุดสนใจ อธิบายชี้แจงถึงสถานการณ์ ทั้งบรรยายถึงลักษณะธาตุของตัวละครเหล่านั้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพลงที่ประกอบส่วนใหญ่ไม่ได้ประกอบไปด้วยกฎแห่งการเร่งเร้าอารมณ์ หากดนตรีนั้นเป็นน้ำที่ช่วยปลูกเมล็ดพืชนั้นให้งอกงามยิ่งขึ้น 







Nausica of the Valley of Wind, ๑๙๘๔ เรื่องราวบรรยายผ่านตัวละคร “เนาซิก้า”สาวน้อยแห่งหุบเขาสายลม ภาพสงครามถูกฉายพร้อมกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ความโลภ ความเกลียด และความรัก ถูกสื่อผ่านออกมาในบทละครเจ้าหญิงแห่งหุบเขาสายลมที่ต้องการที่จะรื้อฟื้นรักษาธรรมชาติ หลังจากที่โลกและธรรมชาติถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์ ไม่มีใครที่จะร้ายได้ตลอด และไม่มีใครที่จะดีได้เสมอไป บรรยากาศด้านเสียงถูกปลุกเร้าความน่าสนใจไว้อย่างน่าตื่นเต้น ด้วยวงออร์เคสตราเครื่องเคาะได้มีบทบาทอย่างมากกับจังหวะจักโคนล้อกับเครื่องสาย และที่สำคัญเครื่องเป่าลมไม้ได้บอกบรรยายถึงตัวละครเอก การสื่อสารของเสียงผ่านสายลมกลายเป็นสื่อกลางได้อย่างดี ดนตรีเล่าเรื่องราวการผจญภัยของเจ้าหญิง เสียงเด็กน้อยค่อยๆปรากฏพร้อมเสียงฟลูตที่น่ารัก การผสานอารมณ์ผ่านลายเส้นแอนิเมชั่น และลายเสียงได้บอกบรรยายถึงจุดประสงค์ของเรื่อง การเรียนรู้ ได้อย่างลงตัว






Laputa: The Castle in the Sky, ๑๙๘๖ เจ้าหญิง “ซีต้า”ผู้พลัดพรากจากครอบครัวราชนิกูลชั้นสูง ครอบครัวกษัตริย์ผู้ดูแลดินแดนลอยฟ้า ลาพิวต้า สร้อยแทนใจจากแม่ที่ล่วงลับเท่านั้นที่จะเป็นกุญแจไขเข้าไปสู่ดินแดนลอยฟ้าในตำนาน “ลาพิวต้า” เรื่องราวการผจญภัยได้ถูกบอกเล่าในบทเพลงเสียงร้องของเด็กน้อย การประสานเสียงอย่างงดงามเปรียบดั่งเครื่องแทนใจจากพ่อ แม่ หนูน้อยและภาระอันยิ่งใหญ่ สงคราม เลือด การเข่นฆ่า ได้ปรากฏเข้ามาในภาพชีวิตอันบริสุทธิ์ ดินแดนลอยฟ้า การบอกเล่าด้วยเสียงเพลง เนื้อร้องบอกเล่าถึงที่มาของเรื่องราว โจรสลัดที่อ่อนโยน พวกทหารเห็นแก่ตัว แต่ทว่าก็ไม่มีใครร้ายได้ตลอด เพราะทุกสิ่งล้วนยืนอยู่บนฐานแห่งความเข้าใจและถ้อยทีถ้อยอาศัยพึ่งพากันอย่างสงบสุข 








My Neighbor Totoro, ๑๙๘๘ เรื่องสองสาวพี่น้อง “ซัทสึกิ” และ”เมย์” เด็กน้อยในวัยต้องการความอบอุ่นจากครอบครัว พ่อหนูทำงานหนัก แม่หนูไม่สบายต้องนอนโรงพยาบาล พี่สาวต้องไปโรงเรียน ความเหงาของเมย์ทำให้เด็กน้อยเรียนรู้ที่จะสร้างโลกในจินตนาการของตน ความสุขในการสมมุติเกิดขึ้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่งดงาม ใครใครก็พูดว่าคนแก่ชอบเลี้ยงดูเด็กน้อย แต่กับเมย์เธอชอบที่จะสร้างโลกฝันที่เธอสามารถสนุกได้อย่างไร้ขอบเขต เธอรอพี่สาวกลับมาเล่นด้วยทุกเย็น และเมื่อภาพจินตนาการนั้นปรากฏขึ้นจริง “โทโทโระ” เทพเจ้าผู้ดูแลป่าได้ปรากฏกายขึ้นเป็นเพื่อนเล่นในโลกที่เมย์คิดว่าคือความคิด และมันไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ใช่ฝัน เมย์ดีใจตามประสาเด็กวิ่งไปบอกเรื่องราวมหัศจรรย์ที่ตนได้เจอกับทุกคน 


แต่ไม่ยักจะมีใครเชื่อน้ำคำอันตื่นเต้นของหนูน้อยเลย ฉากจินตนาการได้บรรเจิดเข้าไปพร้อมท่วงทำนองดนตรีที่ต้วมเตี้ยมแฝงไปด้วยความอ่อนโยนใจดี เสียงต่ำปุ้มปุ้ยได้ถูกนำมาใช้บรรยายท่าเดินของโทโทโระ บทร้องบรรยายภาพถึงเทพเจ้าอ้วนพลุ้ยใจดีที่ได้ปรากฏเล่าเรื่องราวในการช่วยหนูน้อยทั้งสองเรียนรู้การปลูกผักที่สวนหลังบ้าน การรักษาซึ่งธรรมชาติได้ถูกสอดแทรกเข้าไว้กับวัฒนธรรมความเชื่อเรื่องเทพเจ้าได้อย่างแยบยล เทพเจ้าใจดีที่มีรถเมล์เป็นแมวตัวใหญ่ได้ช่วยนำพาเด็กทั้งสองไปเยี่ยมคุณแม่อย่างลับๆ ข้าวโพดในสวนของหนู หนู ถูกวางข้างกรอบหน้าต่างห้องพักผู้ป่วยที่โรงพยาบาลไว้อย่างปริศนา 






Kiki’s Delivery Service, ๑๙๘๙ สาวน้อยแม่มดฝึกหัดนามว่า “กีกิ” กำลังจะโตเป็นแม่มดเต็มตัว เธอต้องออกไปตามหาฝันหน้าที่การงาน ประสบการณ์ในอนาคต แม่มดซุ่มซ่ามที่ยังขี่ไม้กวาดไม่เป็นเรื่องได้ออกเดินทางออกไปพร้อมแมวดำคู่ใจ “จีจิ” กีกิแม่มดขี่ไม่กวาดไม่ได้เรื่อง เธอมีเพื่อนอีกคนคือวิทยุ หมู่บ้านกีกิฝึกงานเป็นเมืองที่ดูสับสนด้วยผู้คนมากมาย รถรางบ้านช่อง แม่มดน้อยได้เดินทางมาจากที่อันแสนไกล จากบ้านนอกเข้าสู่เมืองหลวง เมืองหลวงที่ไม่ใครรู้จักแม่มด ความสับสน การห่างไกลครอบครัวทำให้เด็กสาวแรกรุ่นเหงา เสียงเปียโนของโจ ได้บรรจงบอกเล่าเรื่องราวของสาวน้อยคนนี้เป็นอย่างดี และแล้วเธอก็ได้งานเป็นคนส่งของ ไม้กวาดคู่ใจได้กลายเป็นพาหนะแสนวิเศษ 


วันหนึ่งเมื่อบางสิ่งเปลี่ยนแปลงไป ไม้กวาดบินไม่ได้เธอจึงหมดซึ่งความมั่นใจของโลกวัยเด็ก ความสาวได้พรากสิ่ง ใสใส สวยงามของเธอไป ความรักใสใสเข้ามาแทนที่ด้วยสื่อผ่านออกมาในบทเพลง Kiki La Petite Sorciére การบอกเล่าบรรยายเรื่องราวผ่านวงออร์เคสตรา ความสว่างของเครื่องทองเหลืองได้บรรเจิดขึ้นเพื่อบอกเรื่องราวการผจญภัย และความรักใสใสของสาวน้อยคนนี้ได้อย่างเพลิดเพลิน แล้วเธอก็บินได้อีกครั้งด้วยความรัก ความมุ่งมั่นในหน้าที่และความฝันของเธอ






Porco Rosso, ๑๙๙๒ เมื่อหนุ่มหล่อมากเสน่ห์ และความชำนาญในการขับเครื่องบิน ถูกสาปให้กลายเป็นหมู “ปอร์โก้” ชายผู้มีรสนิยมในการดำรงชีวิต หากเขาไม่กลายเป็นหมูคงมีมากสาวมาสนใจ ทว่ารูปหมูนั้นก็ไม่ได้แปลว่าเขาคือหมูซะทีเดียว ความเป็นลูกผู้ชาย ความมีน้ำใจ และความเท่ห์ ใครใครก็สามารถมองทะลุผ่านร่างหมูเห็นความงดงามข้างใน ในเปลือกนอกได้ ดังที่ “ฟิโอ” สาวน้อยช่างซ่อมเครื่องมือใหม่ ซ่อมเครื่องบินของปอร์โก้ ได้เห็นร่างทองของนายหมูนั้น “จีนา”สาวสวยรวยเสน่ห์เธอรู้ใจนายหมูซะทุกเรื่อง และหลงรักจิตใจ ความเท่ห์เขาเช่นกัน บทเพลงบรรเลงเปียโนของโจได้บอกเล่าถึงความเป็นคนตรงไปตรงมาของปอร์โก้ได้เป็นอย่างดี ความโรแมนติกของชายหมูผู้นี้คงเป็นแบบอย่างกับเด็กผู้ชายได้อย่างมากเช่นกัน ความเป็นสุภาพบุรุษ แม้ว่าเรื่องราวจะมีการต่อสู้ชกต่อยแต่ก็เป็นในแบบของลูกผู้ชาย สุดท้ายผู้แพ้ก็ต้องยอมรับหยาดเหงื่อในความปรีดาแห่งความพยายาม ผู้ชนะต่างทุลักทุเลไม่แพ้กัน น้ำใจนักกีฬาถูกสอดแทรกเข้าไปอย่างแยบยล เพลงที่สุดแสนจะเท่ห์ ด้วยท่วงทำนองของแซกโซโฟนได้บอกกล่าวถึงความเป็นสุภาพบุรุษหมูได้เป็นอย่างดี





Princess Mononoke, ๑๙๙๗ เรื่องราวได้ถูกพาดพิงถึงประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น วัฒนธรรมในยุคสมัยมุโรมาชิ การบุกทำลายป่าของมนุษย์ได้ทำให้เทพเจ้าแห่งสัตว์พิโรธ สงครามได้ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างชนชาติ เส้นแบ่งเขตแดนกำลังถูกครอบครองโดยมนุษย์ “อะชิทากะ”เจ้าชายผู้ถูกสาปด้วยความเกลียดชังของเทพหมูป่า อาวุธ สงคราม เลือด การฆ่าฟันได้ปรากฏอย่างแจ่มแจ้ง “โมโนโนเกะ”เจ้าหญิงหมาป่า ที่ถูกหมาป่าเลี้ยงดูดั่งบุตรีได้รับการปลูกฝังให้เกลียดมนุษย์ผู้ทำลายป่า 


พวกมนุษย์ผู้สร้างนครอาวุธ ได้สร้างอาวุธอานุภาพรุนแรงเพื่อการฆ่าฟัน แต่คนงานเหล่านั้นกลับเป็นสตรีนางโลมที่ล้วนเคยถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ เหล่าชายผู้เป็นโรคผิวหนังรุนแรง พวกที่สังคมรังเกียจได้เข้ามาอยู่ภายใต้ใบบุญของ “ท่านหญิงอีโบชิ” นางต้องการฆ่าเทพแห่งสัตว์ป่าเพื่อชิงหัวของท่านเทพมาถวายแด่จักรพรรดิ ผู้คนล้วนเอาเปรียบเพื่อผลประโยชน์ ก่อเกิดสงครามเข่นฆ่าผู้คนบริสุทธิ์ ส่งผลให้เจ้าหญิงโมโนโนเกะทวีความเกลียดชังมนุษย์เพิ่มมากขึ้น และแล้วสงครามระหว่างเทพและมนุษย์ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยเทพหมูป่าที่ใจร้อน โมหะโทสะได้เข้าไปครอบครองซึ่งร่างเทพหมูป่า สงผลให้หมูเป็นสัตว์ที่โง่ เขลา ดันทุรัง 


ภาพเหตุการณ์เรื่องราวอันมากมายนี้ได้ถูกบอกเล่าด้วยจังหวะที่ฮึกเหิมของท่วงทำนองการออกรบ จังหวะการก้าวเดินวงออร์เคสตราบรรเลงท่วงทำนองที่ตึงเครียดก่อนจะถึงช่วงผ่อนเบาก็ไม่เชิงเสียงเปียโนได้เริ่มขึ้นเสมือนว่าสิ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะสาเหตุอันน้อยนิด จังหวะกระแทกแดกดันของเปียโน เอ้อหู กู่เจิง และวิโอล่า ได้แสดงถึงภาพความขัดแย้งที่ก่อตัวขึ้นของแต่ละฝ่าย ก่อนที่วิโอล่าจะแสดงถึงท่าทีแห่งความเสียใจของเรื่องราวที่ไม่อาจจะกลับคืนมาได้ดั่งเดิม ดีนะที่ยังมีเปียโนเป็นเพื่อน เอ้อหูเธอบอกว่ายังไงก็ยังมีฉันทั้งคน คนที่จะคอยพูดปลอบประโลมเธอ กู่เจิงเองก็รู้สึกเจ็บไม่แตกต่างกัน พวกเรายังไงก็ยังอยู่ร่วมกัน อยู่ในโลกใบเดียวกัน ถ้าไม่รักกันแล้วจะรักใคร ทุกคนกล่าว 


เครื่องดนตรีจากประเทศผู้มีอดีตกับญี่ปุ่นได้บรรจง บรรเลงบอกเล่าเรื่องราวของสารนักประพันธ์คนนี้ จึงไม่ใช่เรื่องยากระหว่างผู้ที่เรียกตนว่ามนุษย์ และเทพ ประเทศที่ยิ่งใหญ่และน้อยนิด การฆ่าฟันมีแต่การทำลาย การทำร้าย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่หนทางที่ดีสำหรับลูกหลานในอนาคต พวกเขาย่อมไม่ผิด เราควรรักกันปลอบประโลมในความเจ็บนั้น นี่แหละคือบทเรียนของสงคราม






Spirited Away, ๒๐๐๑ ชิฮิโร่ สาวน้อยเอาแต่ใจ ครอบครัวตามใจจนเสียคน เมื่อพลัดหลงเข้าไปในดินแดนลึกลับ เหล่าเทพเจ้าต่างมาพักผ่อนที่โรงอาบน้ำของแม่มดเจ้าเล่ห์ยูบาบะ หล่อนจะขโมยชื่อของคนอื่นที่เป็นประโยชน์ ชิฮิโร่เธอได้ชื่อใหม่ว่า “เซ็น” เมื่อพ่อแม่ต้องคำสาปให้กลายเป็นหมูด้วยเหตุแอบไปกินอาหารของคนอื่น 


เซ็นสาวน้อยที่ไม่เคยห่างจากอ้อมอกแม่ พ่อ การผจญภัยฉากใหม่ได้เริ่มต้นด้วยบรรยากาศของเสียงที่มีกลิ่นไอของเอเชีย เครื่องเคาะจังหวะเร้าใจ เสียงเอื้อนสูงของไทยเดิม นี่คือดินแดนลึกลับ! ดนตรีสามารถเล่าเรื่องได้อย่างถึงรส บทบาทตัวละคร ดนตรีที่บรรยายสภาพสถานที่ได้เป็นอย่างดี ณ โรงอาบน้ำแห่งเทพนั้นเซ็นได้พบกับมังกรน้อย “ฮาคุ”ไม่มีภาพยนตร์เรื่องใดของมิยาซากิที่สาวน้อยจะเปลี่ยวเหงา เธอต่างได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าเหล่าชายน้อยทุกเรื่องไป ฝีมือการวาดของมิยาซากิ และการจัดการระบบความคิดของเรื่อง 


การบรรยายบอกเล่าเรื่องราวของเซ็นเป็นไปอย่างวิเศษสุด ทุกคนต่างลืมว่าตนกำลังดูเรื่องราวของเซ็นผ่านจอเงิน นี่ไม่ใช่มนุษย์จริงๆ สาวน้อยเธอเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียว ตลอดไปจนถึงการช่วยเหลือคนที่เคยช่วยเหลือเธอ ความใส ความบริสุทธิ์ถูกสื่อผ่านออกมาได้อย่างสมบูรณ์ การที่ดนตรีไม่เข้าไปลึกถึงบทบาท การบรรยายเพียงแค่สภาพแวดล้อมของอารมณ์คงจะมีพลังมากพอที่จะจำกัดขอบเขตมหาศาลของภาพเขียนมิยาซากิ ดนตรีไม่ได้มีคำตอบเพียงเพื่อเค้นอารมณ์ผู้ดู เพียงแต่สื่อถึงภาพที่ผู้สร้างต้องการให้เห็น ให้ออกมาชัดเจนเท่านั้นเอง ท้ายสุดคงไม่พลาดเรื่องเพลงบรรยายการผจญภัยของสาวน้อยผู้นี้ให้ออกมาเข้าใจง่าย เสมือนนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....







Howl’s Moving Castle, ๒๐๐๔ เรื่องราวจากนิยายตะวันตก เขียนโดย ไดแอนา ไวนน์ โจนส์ สาวชาวอังกฤษตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. ๑๙๘๖ เรื่องราวสาวน้อยโซฟี เจ้าของร้านขายหมวกเล็กๆ ดูเธอมีความสุขกับร้านขายหมวกของพ่อหล่อนเสียจริง โชคชะตานำพาสาวน้อยไปพบรักเข้ากับฮาวล์ พ่อมดหนุ่มไร้หัวใจรักสนุก 


เรื่องราวดูไม่จบสิ้นเมื่อแม่มดแห่งทุ่งร้างเข้ามาสาปเธอให้กลายเป็นหญิงชราวัย ๙๐ จากเด็กสาวอายุ ๑๘ ใครเล่าจะมารักฉันในร่างยายแก่ เธอพยายามหาวิธีแก้คำสาปจนพบปราสาทมีเท้าของฮาวล์ เธอได้พบเพื่อนที่แสนดีที่ถูกสาปให้เป็นหุ่นไล่กาชื่อ หัวผักกาด เธอได้งานใหม่เป็นสาวใช้ในปราสาทของฮาวล์ 


ดูเหมือนสงครามกำลังเริ่มก่อตัวขึ้นโดยมาดามซัลลิมานแม่มดประจำราชวงศ์ของพระราชา เหล่าผู้มีเวทมนต์ต่างลุ่มหลงอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอก และอำนาจภายในจนเหือดหายไปซึ่งจิตใจอันบ่งบอกถึงความเป็นมนุษย์ของตนจนหมดสิ้น โซฟีเลือกที่จะเผชิญชะตากรรมด้วยความไม่ทุกข์ร้อน แต่ความดียังสามารถส่องให้มองเห็นความงามภายในของเธอ ร่างกายเธอเท่านั้นที่ถูกสาป แด่จิตใจของผู้สาป ฮาวล์ต้องคำสาปของตนเองไปแล้ว ดนตรีช่วยชี้แจงด้วยการนำกลิ่นไอตะวันตกเข้าไปใช้อย่างเสรี เปียโนของโจช่างบรรเลงภาพฝันสาวน้อยได้อย่างจับใจ “ฉันคงไม่มีอะไรที่จะเสียอีกแล้ว” โซฟีพูดเมื่อตัวเองเป็นยายแก่ 
“...ในวันนี้ ที่แห่งความทรงจำ วันที่ฉันไม่มีเธออยู่เคียงข้างกาย ดั่งสายลมลัดผ่านบางเบาอ่อนไหว เธอจูบประทับแก้มฉันอย่างแผ่วเบา แสงแดดส่องผ่านใบไม้ไหว เราต้องจากพราก สัญญาแห่งรักยังมั่นไว้ ชั่วนิรันดร หนักแน่นดั่งปฐพี ในวันนี้ฉันอยู่เดียวดาย หากพรุ่งนี้สิ้นกาล ความอ่อนโยนบนแก้มฉันนั้นจะซ่อนอยู่ในความมืดเงาราตรี...” (นับทอง ทองใบ, เรื่องเดียวกัน, ๒๕๕๐:๑๔๖.) ดนตรีพร้อมบทเพลงเล่าเรื่องได้กล่าวทักทอเรื่องราวได้อย่างดงามพวกเขาทอด้วยจิตวิญญาณ จิตใจที่สวยงามดั่งโซฟี คุณสัมผัสได้ไหมล่ะ?






Ponyo on the Cliff by the Sea, ๒๐๐๘ เรื่องราวของเจ้าหญิงปลาทองนามว่า “โปเนียว” ธิดาพระแม่คงคา บ้างก็อาจจะเป็นพระแม่ธรณีก็เป็นได้ เพราะเมื่อหนูปลาทองได้ลิ้มรสเลือดของบุรุษเพศน้อย การบูชายัญเล็กๆ ได้เกิดขึ้นจากองค์หญิงปลาทองหัวติดขวด เธอมีความรักเล็กๆ ให้กับเจ้าของหยดเลือด “โซสุเกะ” 


ด้วยอำนาจแห่งการบูชายัญ แม่ปลาทองน้อยสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ด้วยอำนาจของเลือดบุรุษน้อย เธอเปิดขุมพลังของพ่อ “ฟูจิโมโตะ”ผู้บูชายัญความเป็นมนุษย์ให้แก่เจ้าแม่ เจ้าแม่ผู้ทรงทั้งพลังอำนาจ เขาต้องทำงานให้ภริยาผู้เป็นใหญ่ ท่ามกลางท้องทะเลอันสกปรก ความมักง่ายของมนุษย์ถูกสื่อผ่านในภาพที่ไม่น่าอภิรมย์ของชายหาด โขดหินสกปรก แต่ทั้งหมดกลับโดนอำนาจของพระแม่คงคาฝึกหัดกวาดชะล้างไปจนหมดสิ้น 


ทะเลสวย น้ำใสได้กลับมาอีกครั้ง พระแม่คงคาเธอคงดีใจจึงได้มาเยี่ยมเยียนในความงามนั้น ภาพครอบครัวของโซสุเกะ พ่อผู้ออกทะเลหาปลาบ่อย แม่ผู้ชอบทำกับข้าวรอเก้อ ความรักใสใสถูกสื่อผ่านออกมาอย่างบริสุทธิ์ หน้าที่เปรียบเสมือนเรือลำเล็กของโซสุเกะที่พาทั้งคู่ไปสู่โลกแห่งความจริง เมื่อโปเนียวตัดสินใจทิ้งอำนาจพระแม่คงคาในอนาคตของเธอกลับมาเป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็กๆ เพื่ออยู่กับชายผู้บูชาเลือดอันบริสุทธิ์นั้นตลอดไป ซึ่งแตกต่างจากคู่ของพ่อ ที่ได้อุทิศความเป็นมนุษย์ให้เจ้าแม่ เนื้อหาที่ลึกล้ำเกินจะหยั่งถึงถูกบอกเล่าเรื่องราวโดยเสียงของพระแม่คงคา เพลง Mother of the Sea ขับร้องโดย มาซาโกะ ฮายาชิ(Masako Hayashi),โซปราโน ผู้เคยขับร้องผ่านเรื่องราวของ Princess Mononoke บรรยายภาพเหตุการณ์ด้วยบรรยากาศเสียงเพลงอันน่ารักโดยกลุ่มนักร้องอายุต่างวัย ฟูจิโอกะ ฟูจิมากิ และโอฮาซิ(Fujioka Fujimaki and Nozomi Ohashi )หนูน้อยวัย ๘ ขวบ และตาแก่ ๒ คนบอกเล่าเรื่องราวของแม่ปลาทองน้อย






โปเนียว โปเนียว โปเนียว นี่คือชื่อของแม่ปลาน้อย หนูมาจากท้องทะเลสีฟ้าคราม เธอสั่นกระดิ่งรักสาวรุ่น มันจะดีแค่ไหนนะถ้าฉันมีเท้า (ฉันจะวิ่ง!) มันจะดีแค่ไหนนะถ้าฉันมีมือ (ฉันจะจับมือเธอ!) เวลาที่ได้กระโดดกับเธอทุกครั้งหัวใจก็ดูเหมือนจะเต้นไปด้วยทุกครั้ง ฉันรักเธอมากมาย



ทุกครั้ง ในทุกท่วงท่าแห่งการก้าวเดินของจิบลิ เหมือนมิยาซากิจะไว้วางใจโจเป็นพิเศษ New Japan Philharmonic Orchestra(ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. ๑๙๗๒) วงออร์เคสตราคู่ใจที่บรรเลงในบทเพลงของโจนั้น ดูเหมือนจะเติบโตมาในโลกของดนตรีคลาสสิค แต่น่าเสียดายเมื่อเวลาผ่านไปมันดูคล้ายวงดนตรีที่เก่าเก็บส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ถึงคราวต้องเปลี่ยนตัวเองให้เข้าไปเกี่ยวกับกระแสวัฒนธรรมสมัยใหม่อย่างเลี่ยงไม่ได้ "We will surpass the Boston Pops Orchestra within three years," โจกล่าวเช่นนั้น เมื่อพวกเขาเข้าสู่โลกสมัยใหม่ บรรเลงเล่นเพลงในวัฒนธรรมดนตรี Popular Music จำต้องเรียกตัวเองในวิญญาณที่เกิดใหม่ในร่างเดิมนี้ว่า “The New Japan Philharmonic World Dream Orchestra” ภายใต้อำนาจเวทมนต์ของโจ ทำให้วงออร์เคสตราเกิดใหม่อย่างสมบูรณ์








 "My hope is that while respecting classical music, we will be able to send a message that strikes a chord with people today,"

 
การนำเสนอถ้อยความ เจตจำนงค์ทางเสียงเพื่อคนในสังคมปัจจุบันได้รับรู้ เราต้องการผลิตผลงานที่เป็นอมตะ เราสร้างผลงานที่ไม่เพียงเพื่อความกระหาย เม็ดเงินดูเหมือนจะไร้ค่าเมื่อเทียบกับความตั้งใจของเรา เพลงที่พวกเราได้สร้าง เพลงที่จะตราตรึงอยู่ในจิตใจของผู้คนตราบนานเท่านาน 


"I don't want the World Dream Orchestra to be like a dessert whose taste is instantly forgotten as soon as you leave the restaurant,"


 


นี่แหละ สตูดิโอจิบลิ คอนเสิร์ตของสตูดิโอจิบลิ และNew Japan Philharmonic World Dream Orchestra ได้ก่อกำเนิดอย่างยิ่งใหญ่ขึ้นในปี ค.ศ. ๑๙๙๗ คอนเสิร์ตเพลงประกอบการ์ตูน จอภาพขนาดมหึมาถูกฉายภาพประกอบการบรรเลงได้อย่างมีอรรถรส เครื่องดนตรีจำนวนมากมายได้ถูกลำเลียงเข้าสู่ฮอลล์ของสถานีโทรทัศน์ NHK ดนตรีเพื่อมวลชนคนปัจจุบันได้ก่อตัวขึ้นในนามของวง New Japan Philharmonic World Dream Orchestra น่ายินดีที่ NHK ช่อง BS2 สามารถสื่อวัฒนธรรมดนตรีสิ่งที่สามารถพัฒนาคุณภาพประชากรในประเทศเหล่านี้ การแสดงดนตรีที่วิเศษถูกถ่ายทอดผ่านช่อง BS2 ผู้ปกครองคงยินดีปรีดาที่จะฝากบุตรหลานของท่านไว้กับโทรทัศน์ช่องนี้ ภายใต้ระบอบทุนนิยมเป็นเรื่องยากที่จะเงื้อมมือจัดแจงจัดการสิ่งอบายมุข โฆษณา การห้ามไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป แต่การเรียนรู้กลับเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ ชีวิตต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ผมคิดว่าการ์ตูนของผมจะช่วยปลูกงามงดงามในการเรียนรู้นี้ขึ้น 



“ผมจะทำการ์ตูนให้เด็กๆ ดู เด็กๆ ที่ดูแล้วกล้าเอ่ยปากพูดในนาทีที่คับขันนั้นว่า -พ่อจ๋า ลุงจ๋า กรุณาหยุดรถรับผู้หญิงและเด็กคนนั้นขึ้นมาด้วยเถอะจ๊ะ- เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียใจไปชั่วชีวิตเหมือนผม” กรุณาชมภาพยนตร์เหล่านี้เถอะ เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง...


Amelie Chance รายงาน....





บรรณานุกรม
ภาษาไทย
นับทอง ทองใบ, ฉีกขนบแอนิเมชั่น เอกลักษณ์ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ นักฝันแห่งตะวันออก, สำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก
         โดย สถาบันการ์ตูนไทย, พิมพ์ที่แปลนพริ้นท์ติ้ง จำกัด, กรุงเทพฯ, ๒๕๕๐.
สุภางค์ จันทวานิช, ทฤษฏีสังคมวิทยา, สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, พิมพ์ที่บริษัท วี พริ้นท์(๑๙๙๑) จำกัด,          
          กรุงเทพฯ, ๒๕๕๑
.


ภาษาอังกฤษ

TAI KAWABATA, New Japan Philharmonic pops the cork, The world’s Window on Japan The Japan Time.

 

เวปไซต์

http://www.ghibliworld.com
http://www.wikipedia.org

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น